วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2564

คริสมาสต์ปีนี้ ถ้าพระเจ้าอวยพร

 หลังจากเด็กจากไป 2 ปีกว่าเราได้เจอหันราวๆ 4 ครั้งได้ บางครั้งสั้นๆ ไม่ถึง 1 ชั่งโมง

ตอนนี้นานสุดคือ 2 วัน 2 คืน 


เรารู้ว่าทุกวันเราจะคิดถึงเขา แม้ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ 700 กว่าวันที่ผ่านมาไม่มีวันไหนไม่คิดถึงเลย

และมีความรู้สึกหลากหลายที่ผุดขึ้นมาในใจ มีความคาดหวังและความผิดหวังอยู่ในนั้นเสมอ 

มีความสุข ซาบซึ้งใจและความเศร้าเสียใจคละเคล้ากันไป 

บางทีก็อธิบายไม่ได้บอกไม่ถูกว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน 

ทุกวันคิดถึงแต่ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปทุกวันและทุกครั้งที่เจอ 


แน่นอนเราคงอยากให้เรารักกันเหมือนเดิม หรือแอบกลัวว่าเด็กจะไม่รักเรา

เอาเข้าจริงสิ่งที่บีบหัวใจมากที่สุดกลับเป็นว่า 

เราหวังจะเห็นเขามีชีวิตที่ดี พอเรารู้ว่ามันอาจจะไม่ได้ดีเหมือนที่เราหวัง 

เราเสียใจ รู้สึกผิดเพราะคิดว่าถ้าเราอดทนกว่านี้ ดีกว่านี้ 

เรายังทำอะไรให้คนที่เรารักมากกว่านี้ได้อีกไหม 

มีอะไรที่เราทำได้จริงๆ เราคงให้ทุกอย่างไม่ได้ แก้ไข เปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างไม่ได้ 

แต่ถ้าขอพรได้ ฉันขอให้เธอมีชีวิตที่ดีเท่าที่เธอจะมีได้ 


ได้แต่บอกว่ารักเหมือนเดิม ได้แต่ปลอบใจว่าเธอไม่ได้เดียวดาย 

อย่าเหงาไปเลยยังมีฉันอยู่ตรงนี้อีกคน 

อย่ากลัว ถ้ารู้สึกไม่มีใคร โปรดกลับมา อ้อมกอดและความรักนี้จะคงอยู่เพื่อเธอ







ฉันจะรอเธออยู่ตรงนี้เสมอ 

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ไม่มีชื่อเรียก

 วันที่ความทรงจำกำลังเลือนหาย

น่าแปลกที่บางความทรงจำที่เราอยากเก็บไว้มันกลับกำลังเลือนลางไป 

การสูญเสียเจ็บปวดทรมาน

การสูญเสียความทรงจำมันก็เจ็บปวดทรมานไม่ต่างกัน

แม้ฉันรู้ว่าสักวันฉันจะลืม จะจำวันที่มีเธอเกือบไม่ได้ 

และบางทีความเจ็บปวดก็จะจางไปตามความทรงจำ

แต่ใจฉันกลับไม่อยากลืมเธอ


ฉันดำเนินชีวิตเพียงหวังให้แต่ละวันผ่านไป และไม่ต้องเจ็บปวดเนิ่นนานเกินไป

หรือหวังว่าถึงเจ็บปวดก็จะทนไหว จะอยู่กับหัวใจที่เจ็บๆ นี้ได้ 

หัวใจที่มันเหมือนจำหยุดเต้นน ใจเล็กๆ ที่เจ็บจี๊ดๆ ตลอดเวลา

เหมือนเกือบจะหายใจไม่ออก






จะสองปีแล้วนะ

 กำลังจะครบสองปีแล้วที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน 

ในใจฉันกำลังซ่อมแซม จากความผิดหวัง เจ็บปวด 

แต่ความรักยังอยู่ที่เดิม เราไม่ได้จากตาย เราแค่จากเป็น 

จริงๆ เราควรดีใจ พอใจ แต่มันก็ไม่ง่ายที่สัมผัสนั้นหายไป

และมีความรู้สึกที่ไม่มีวันเหมือนเดิม ที่ฉันอยู่กับมันมาได้

แค่มันเว้าแหว่ง  


บางเรื่องไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็แค่ผ่านไปแต่ในใจยังเหมือนเดิม 


วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ฉันเคยเป็นแม่ ในวันแม่

 ไม่เคยคิดว่าจะได้เป็นแม่ในงานวันแม่

ไม่อินตอนนั้น แต่เป็นความทรงจำที่ดีวันนี้

วันนั้นไปเพราะอยากให้ตั่วโมรู้ว่ามีหม่ามี๊นะ

หม่ามี๊จะเป็นหม่ามี๊นะโมตลอดไป 

ขอบคุณที่ผ่านมาเป็นหม่ามี๊กับตั่วโม กันนะ

365 วัน ฉันคิดถึงเธอ

 ครบ 365 วันที่เราไม่ได้อยู่ข้างๆ กัน 

ฉันยังคิดถึงเธอเสมอ ยังเสียน้ำตา ยังตื้นตัน

 กับเรื่องราวที่เรามีกัน

ที่ผ่านมา หม่ามี๊ไปทำอะไรๆ มามากมาย สุข บ้าง ทุกข์บ้าง

ไม่มีวันไหนไม่คิดถึงตั่วโมเลย 

ยังเก็บความทรงจำและความรักนี้ไว้ข้างกายเสมอ

วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2563

ความทรงจำที่ยังคงอยู่

“เอี๊ยด” เสียงประตูเปิดออก เด็กน้อยเข้ามาในบ้านอย่างเหนียมอาย แล้ววิ่งมาเจอรถเฟอรารี่สีแดงคันเดิมที่เคยนั่งไถมาต้ังแต่ตอนยังเดินไม่ได้ เด็กน้อยนั่งลงคร่อมรถคันเดิมไถออกไปจนถึงหน้าประตูบ้านสีฟ้าหลังเดิม

เขาคงเดินเข้ามาแวะทักทายของเล่นเพื่อนเก่า แล้ววิ่งปรู๊ดตรงไปที่ประตูห้องของเรา หมุนเปิดด้วยความคุ้นเคย
“กึก” แต่คราวนี้ประตูเปิดไม่ออก และไม่มีใครเปิดออกมา เด็กหันมาถามว่า “ทำไมมันล๊อค” คำถามเดิมที่มักจะถามเป็นประจำ แต่คำตอบของครั้งนี้คือคนที่เคยอยู่ในนั้นไม่อยู่อีกแล้ว

เด็กเดินกลับออกมาเปิดตู้เย็นหยิบช็อกโกแลตลูกบอลออกมา แกะกินเหมือนทุกวันที่เคยทำ ในตู้เย็นนั้นยังคงมีช๊อกโกแลตอยู่เสมอมา เหมือนรอคอยให้เจ้าของกลับมากิน

 เดินไปเล่นสไลด์เดอร์อันเดิมที่ตอนนี้คงเล็กกว่าตัวเขามากแลัว

เด็กจากไปแล้วพร้อมกล่องของเล่นใบใหญ่ ทิ้งไว้เพียงร่องรอยองเศษฟอยห่อช๊อกโกแลต เป็นการกวาดเศษขยะที่มีความทรงจำลอยวนอยู่ในอากาศรอบตัว

ระลึกถึงกันวันฟ้าหม่น

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562

สายสัมพันธ์เชื่อมโยง

ประโยคที่จริงแท้พอได้มา น้ำตาก็ไหล
เหมือนลูกศรที่พุ่งเข้าไปกลางหน้าอก
ทะลุเข้าไปในใจ
นี่คงเป็นหน้าที่หลักของภาษา
และฉันเขียนเพื่อเยียวยาตัวเอง

ค่ำคืนลำพังนั้นยากเย็นเสมอ
หากเคยมีมือน้อยๆ ให้เกาะกุม
ขอบคุณช่วงเวลาดีดีที่เรามีกัน

นะโมชอบนอนโดนตัวคน ต้องคอยจับ
คอนลูบหัว คอยกอดเอาไว้

นะโมชอบนอนแขนหม่ามี๊เสมอ
นม : หม่ามี๊ขอนอนแขนหน่อย (เสียงอ้อนบ้าง เสียงสะอื้นบ้าง)
มม : ทำไมขอนอนแขนทุกวันเลย ชอบเหรอ
นม : ชอบนอนแขนหม่ามี๊

หม่ามี๊สละแขนหนึ่งข้างให้นะโมนอนเสมอ
แม้จะสร้างความปวดเมื่อยให้กับแขนและไหล่มากเพียงใด
การเสียสละนี้หม่ามี๊หวังเพียงให้นะโมได้สัมผัส
ความอบอุ่นปลอดภัย ความไว้วางใจต่อโลก
และสายสัมพันธ์แห่งรักที่ส่งออกไป
เพื่อบอกว่าไม่ต้องกลัวนะเธอไม่ได้อยู่คนเดียว
เธอมีหม่ามี๊เคียงข้างเสมอ ยามดึก ยามมืดมิด จะพบหม่ามี๊ข้างๆ

และแม้วันใดที่ร่างกายของเราไม่ได้สัมผัสกัน
ขอให้สายสันพันธ์นั้นเชื่อมร้อยถักทอให้เธอเติบโตแข็งแรงต่อไป




บันทึกที่ผ่านมา